วันเสาร์, มกราคม 13, 2550

ธรรมะบรรยายประจำวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2550

เมตตาธรรม......ค้ำจุนโลก

หากผู้ใด เห็นอานิสงส์ แห่งธรรมนี้

ชื่นชมยินดี เกื้อกูล ให้ไพศาล

ก็ยินดี อนุโมทนา สาธุการ

ธรรมทาน นั้นเลิศ กว่าสิ่งใด

ปวงสัตว์โลก ยังมืด กันอยู่มาก

ทุกข์ลำบาก เบียดเบียน ไม่รู้สิ้น

เพราะโมโห บังตา เป็นอาจิณ

จงช่วยกัน เปิดโลกสิ้น ด้วยพระธรรม

ก็จะมี แต่ ความร่มเย็น สันติสุข

สิ้นความทุกข์ ก็มลาย ไปเหมือนฝัน

มีแต่ ความเมตตา อภัยกัน

นิจนิรันดร์ เพราะใจนั้น เห็นธรรมจริง

เมตตา กรุณา มุติตา อุเบกขา

ทุกอย่างในโลก คือ ธรรมะทั้งสิ้น

ในโลกนี้ ไม่มีอะไร ที่ไม่ใช่ธรรมะ มันมิใช่ ดี หรือชั่ว บุญ หรือบาป สวรรค์ หรือนรก ใดๆทั้งสิ้น แต่มันคือ ธรรมะ ที่มีผลเป็นทุกข์ หรือไม่ทุกข์ ต่างหาก ทุกข์ก็รู้ ไม่ทุกข์ก็รู้ สองอย่างนี้เท่านั้น และสิ่งสองอย่างนี้ ก็มีอยู่ในจิตใจของทุกข์ชีวิต ทุกคนทุกเพศทุกวัย เราทุกข์เพราะเรายึดมั่น ในรูปร่างกายตัวตนนี้ว่า เป็นตัวตนของเรา เป็นของเรา เป็นตัวเรา เท่านั้น ขณะใดที่จิตเรามิได้ยึดในตัวเรา หรือ ของเรา มันก็ไม่เห็นจะทุกข์ เลยจริงมั้ย เช่นตัวผู้อื่น ของผู้อื่นเสียหาย จะเป็นอย่างไรก็ตาม ทำไมเราจึงไม่ทุกข์ละ หากมีตัวเรา ของเรา เป็นอะไรไปทำไมจึงเกิดทุกข์ขึ้นได้ เห็นหรือยังว่าทุกข์เกิดจากอะไร มันเกิดขึ้นได้เพราะมีตัวเราของเรา จริงไหม แล้วรูปร่างกายนี้ มันเป็นของเราจริงหรือ ถ้าเป็นของเราจริงๆ ทำไมคนที่ตายไปแล้วจึงไม่สามารถนำเอาร่างกายไปได้ด้วยเล่า ทั้งทรัพย์สินเงินทองก็ตามที พอตายไปแล้วไม่มีใครเอาอะไรไปด้วยสักชิ้นเดียว ทิ้งไว้กับโลกนี้หมด ทั้งๆที่หามาด้วยความอยากลำบาก ขณะมีชีวิตอยู่ก็หวงแหน เมื่อมีชีวิตอยู่มันก็เป็นของเรา ขณะหนึ่งเท่านั้น พอตาย ก็หมดสิทธิ์ทุกอย่าง ดังนั้น จงยอมรับความจริงเสียว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ไม่ใช่ของเราเลย แต่เราต่างหากที่เป็นของโลกอย่างแท้จริง

โดย พระมหาอุดม อุตตโม เจ้าอาวาส วัดดอนแก้ว อ.สารภี จ.เชียงใหม่

ไม่มีความคิดเห็น: